ถ้าคุณกำลังจะทำภาพสำหรับการขายของ
และต้องการกระตุ้นความอยากซื้อของลูกค้า
อย่างหนึ่งที่ออมแนะนำว่าคุณต้องใส่ใจเลย
คือ เรื่อง “สี” ค่ะ
เพราะสี คือ สิ่งสำคัญ ที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจ
หรือช่วยสร้างการจดจำให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
สีแต่ละสีมีความหมาย และให้การรับรู้ด้านอารมณ์
ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งมากกว่า 80% ของคนทั่วไป
ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย มักจะใช้สีเป็นตัวช่วยในการ
จดจำเสมอ
อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าคุณกำลังสงสัย ว่าสีมันสำคัญ
และช่วยในการตัดสินใจซื้อของได้จริงหรือไม่?
ลองอ่านรายละเอียดของทั้ง 3 ข้อดูก่อนนะคะ
คุณจะได้รู้ว่า สีมันช่วยในการตัดสินใจซื้อของ
ได้ยังไงบ้าง
1. สร้างการจดจำ และสะท้อนตัวตนที่ชัดเจนของแบรนด์
คุณรู้มั้ยว่า คนทั่วไปมักจะใช้วิธีการจดจำแบรนด์
จาก “สี” ที่เค้าเห็น นั่นหมายความว่า การใช้สี
สำหรับแบรนด์ของคุณ ก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ซึ่งสิ่งแรกที่คุณควรทำก่อนที่จะเลือกใช้สีประจำ
แบรนด์คือ คุณต้องรู้ภาพลักษณ์ที่คุณต้องการสื่อสารออกไปก่อน เช่น หากคุณต้องการให้แบรนด์ของคุณมีภาพลักษณ์ที่ออกมาในสไตล์ เรียบหรู คุณอาจจะเลือกใช้เป็นสีดำ เพราะสีดำจะให้ความรู้สึกหรูหรา และบ่งบอกถึงความมีรสนิยม
การเลือกใช้สีที่ให้ความหมายชัดเจนตั้งแต่แรก
จะช่วยให้ผู้คนสามารถจดจำภาพลักษณ์จากแบรนด์
ของคุณได้ง่ายขึ้น
และสำหรับสีของแบรนด์ที่ใช้ หากเราจะมีเพียงแค่สีเดียวมันก็จะดูน่าเบื่อและจำเจเกินไป ซึ่งตรงนี้ออมแนะนำว่าให้คุณเลือกชุดสีประจำแบรนด์ (Color scheme) ของคุณเอาไว้ด้วย เพื่อให้การเลือกใช้สี
ของแบรนด์มีความหลากหลายมากขึ้น
และที่สำคัญ มันจะทำให้คุณ รวมไปถึงทุกคนในทีม
ของคุณ สามารถเลือกใช้สีสำหรับงานกราฟิกได้
แบบไม่หลงทางค่ะ
สำหรับชุดสีที่ออมแนะนำให้มีติดแบรนด์เอาไว้
คุณอาจจะเลือกไว้สัก 5 สี ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องมีเยอะ
มากเกินไปนะคะ เพราะมันจะทำให้เราเกิดความสับสน และอาจจะทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์หลงทางไปได้
สำหรับมือใหม่ ออมแนะนำให้เลือกสีโดยการ
เลือกสีตั้งต้นก่อน นับเป็น 1 สี หลังจากนั้นให้เลือก
อีก 2 สีที่เป็นสีที่ใกล้เคียงกับสีหลัก และอีก 2 สี
ที่เหลือให้เลือกเป็นสีที่ตัดกัน (Contrast)
การเลือกสีให้มีทั้งแบบสีที่ใกล้เคียงกันและสี
ที่ตัดกัน จะทำให้การออกงานกราฟิกของคุณ
มีลูกเล่นมากขึ้นค่ะ
2. เพิ่มการมองเห็น ให้ชัดเจนสะดุดตา
นอกจากสีจะช่วยแสดงถึงภาพลักษณ์ที่ชัดเจนของแบรนด์แล้ว “สี” ยังทำหน้าที่ช่วยเน้นจุดสำคัญ เพื่อเพิ่มการมองเห็นให้ชัดเจนมากขึ้นได้อีกด้วย
เพราะการทำกราฟิกสำหรับการขาย จะต้องมี
ความชัดเจน สะดุดตา เห็นแล้วเข้าใจง่าย
เพื่อให้กลุ่มลูกค้าสามารถเสพสื่อได้ง่ายที่สุด
ซึ่งการใช้สีช่วยเน้นจุด เน้นคำ ก็จะทำให้ลูกค้า
เข้าใจสารที่คุณต้องการสื่อได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
วิธีการใช้ “สี” เพื่อเน้นเฉพาะจุด สำหรับการ
“ขาย” ก็มีอยู่หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น
1. การใช้สีเน้นคำหรือประโยคที่ต้องการ (Accent) คือ การใช้สีเพื่อเน้นคำหรือประโยคที่ต้องการให้เด่นขึ้นซึ่งตรงนี้คุณควรเลือกใช้สีในชุดสีประจำแบรนด์ของคุณมาทำการเน้นคำ หรือ ประโยคที่คุณต้องการ เพื่อให้คำหรือประโยคนั้นมีความชัดเจนขึ้น โดยที่สีก็ยังต้องคง concept สีของแบรนด์เอาไว้
2. การใช้สีแบบตัดกัน (Contrast) คือ การใช้สีคู่ตรงข้าม เพื่อเน้นให้จุดที่คุณต้องการโชว์ มองเห็นได้ชัดมากยิ่งขึ้น เช่น หากผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นสีชมพู และคุณต้องทำรูปกราฟิกเน้นให้สินค้าของคุณดูเด่นขึ้น คุณควรเลือกใช้พื้นหลังเป็นสีเหลืองเพื่อให้พื้นหลังขับให้สินค้าของคุณมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น
3. การใช้สีเน้นพื้นที่ คือ การใช้สีเพื่อเน้นพื้นที่เฉพาะจุดที่คุณต้องการให้เห็นเด่นชัดขึ้น เช่น หากคุณทำรูปโปรโมชั่นแถมสินค้า แล้วคุณต้องการเน้นให้เห็นสินค้าที่แถมชัดๆ คุณอาจจะเลือกใช้ “สี” มาสร้างเป็นพื้วงกลมให้กับสินค้าของแถมของคุณ เพื่อเป็นการเน้นให้เห็นสินค้าของแถมของคุณได้ชัดเจนขึ้นก็ได้
แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้สีในการเน้นเฉพาะจุดแบบไหน สิ่งนึงที่ออมแนะนำว่าคุณห้ามลืมเด็ดขาดเลยก็คือ “คุณต้องเลือกใช้สีให้คุมโทน โดยเลือกใช้สีที่เป็นชุดสีของแบรนด์คุณนะคะ”
เพราะการทำงานคุมโทนสีจะทำให้งานของคุณ
ออกมาไม่ผิดทิศ ภาพลักษณ์ที่ถูกถ่ายทอดออกมา
ก็ยังคงความเป็นตัวตนของแบรนด์เอาไว้ เท่ากับว่า
คุณได้ทั้งเน้น “ขาย” และได้ “สร้างตัวตนของแบรนด์” ไปในเวลาเดียวกันด้วยค่ะ
3. กระตุ้นการรับรู้และการตัดสินใจทางอารมณ์ได้เป็นอย่างดี
ออมเชื่อว่าหลายๆคน ก็คงรู้กันอยู่แล้วว่า “สี” แต่ละสีมี “ความหมาย” และให้ “อารมณ์” ที่แตกต่างกันออกไป
และด้วยความหมายที่แตกต่างกันออกไปนี่แหละค่ะ มันถึงจำเป็นที่จะต้องถูกใช้สื่อสารให้ถูกที่ ถูกทาง เพราะคนเรามากกว่า 80% จะใช้สีเพื่อจดจำ และกระตุ้นการตัดสินใจ และในกลุ่มผู้หญิงกับผู้ชายก็ยังมีการรับรู้ทางด้านสีที่ต่างกันออกไปอีกด้วย
ซึ่งมันก็หมายความว่า หากคุณต้องการทำกราฟิกสำหรับการขายให้ได้ประสิทธิภาพ คุณควรต้องเลือกใช้สีให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการสื่อสารนะคะ
ก่อนเริ่ม start ลงมือทำงานกราฟิก ออมแนะนำให้คุณเลือก concept ของงานที่จะทำ และกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ดีเสียก่อน
เพราะเมื่อคุณรู้ว่าคุณต้องการสื่อสารอะไรกับใครแล้ว จำนวนของสีที่เริ่มแรกมีอยู่ในใจหลากหลาย ก็จะลดลงทันที ทำให้การเลือกใช้สีของคุณนั้นง่ายขึ้นค่ะ
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการขายสินค้าประเภทครีม โดยคอนเทนต์ที่ต้องการสื่อสาร คือ ครีมโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 และกลุ่มลูกค้าที่ต้องการคือ ผู้หญิง อายุ 25-30 ปี
การถอดสีเพื่อการสื่อสารสามารถทำเป็น step ได้ดังนี้
1. เลือกสีจากชุดสีประจำแบรนด์ ที่เป็นสีที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่คุณเลือก (โดยพื้นฐานของชุดสีประจำแบรนด์ ควรจะต้องมีสีที่เหมาะสมที่จะสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายของเรารวมอยู่ด้วย)
2. เลือกสีที่ตรงกับสารที่คุณต้องการสื่อ เช่นตัวอย่างนี้สาร คือ โปรโมชั่น คุณอาจจะเลือกใช้เป็นสีแดงเพื่อกระตุ้นอารมณ์ด้านความอยาก
เพราะสีแดง คือ สีสากล ที่คนส่วนใหญ่เห็นแล้วจะรับรู้ได้ถึงความเร่งรีบ สร้าง sense of urgency ได้เป็นอย่างดี สะท้อนว่า หากลูกค้าไม่รีบซื้ออาจจะพลาดโปรโมชั่นได้
ส่วนของสีแดงที่เลือกมาใช้ คุณก็สามารถเลือกเฉดได้ ซึ่งควรเลือกเฉดให้เข้ากับเนื้อสีหลักที่เราเลือกใช้ เพื่อให้งานออกมาเป็นโทนเดียวกัน
เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถออกแบบงานกราฟิกสำหรับขายของ ให้งานออกมายังคง concept
ของแบรนด์ และยังสามารถส่งสารกระตุ้นการรับรู้และการตัดสินใจให้กับลูกค้าของคุณได้แล้ว
สำหรับการทำแบนเนอร์ขายของสักตัว ออมบอกเลยค่ะ ว่าคุณไม่จำเป็นต้องเป็นกราฟิกดีไซน์ถึงจะทำงานได้นะคะ
เพราะจริงๆแล้ว แค่คุณเข้าใจวิธีการเลือกสี เข้าใจว่าลูกค้าของคุณคือใคร ต้องการรับสารแบบไหน แค่นี้คุณก็สามารถเลือกใช้สีเพื่อออกแบบงานกราฟิกของคุณได้ไม่ยากแล้วค่ะ
#MaxideaTips #MaxideaStudio
#มีประโยชน์ฝากช่วยแชร์ด้วยนะครับ