การสูญเสีย Traffic จาก Google Search หลังเปิดตัว AI Overview เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง โดย Google ออกมาแจงว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ Referral Traffic โดยรวม และผู้ใช้งานยังคงได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น แต่รายงานจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งกลับแสดงภาพที่ตรงกันข้าม หลายเว็บไซต์รายงานการลดลงของ Traffic อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะสื่อสารมวลชนและเว็บไซต์ข่าวต่างๆ ครับ การเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าของเว็บไซต์ที่ต้องการรักษาหรือเพิ่ม Organic Traffic ในยุคของ AI-driven Search
ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการสูญเสีย Traffic จาก AI Overview
1. ข้อมูลจาก Google ที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง
Google ออกมาแถลงผ่านบล็อกอย่างเป็นทางการว่า “Organic Click Volume จาก Google Search ไปยังเว็บไซต์ต่างๆ ยังคงมีเสถียรภาพเมื่อเทียบปีต่อปี” และยังกล่าวอ้างว่า Quality Clicks เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยหมายถึงการคลิกที่ผู้ใช้ไม่กดกลับทันที ซึ่งแสดงถึงความสนใจในเนื้อหาครับ
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Pew Research ที่เก็บมาจากผู้ใช้ 900 คน พบว่าผู้ที่เห็น AI Summary ในผลการค้นหามีอัตราการคลิกไปยังลิงก์ปกติเพียง 8% ในขณะที่กลุ่มที่ไม่เห็น AI Summary มีอัตราการคลิกถึง 15% ซึ่งเป็นความแตกต่างที่สำคัญมาก Google วิพากษ์วิจารณ์งานวิจัยนี้ว่าใช้กลุ่มตัวอย่างที่เล็กเกินไป แต่เมื่อพิจารณาเป็นตัวชี้วัดแล้ว ข้อมูลนี้สะท้อนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงต่อการสูญเสีย Traffic ค่ะ
2. ผลกระทบต่อองค์กรสื่อและเว็บไซต์ข่าวอย่างรุนแรง
รายงานจาก Wall Street Journal เปิดเผยว่าองค์กรสื่อข่าวหลักทุกแห่งประสบปัญหาการลดลงของ Organic Search Traffic ตัวอย่างที่เด่นชัด คือ HuffPost ที่สูญเสีย Traffic มากกว่าครึ่งหนึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่วน The Washington Post และ Business Insider ก็มีแนวโน้มที่คล้ายคลึงกันครับ
Business Insider เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ เพราะมี Traffic จาก Google Search ลดลง 55% ระหว่างเดือนเมษายน 2022 ถึงเมษายน 2024 ซึ่งบังคับให้บริษัทต้องปลดพนักงาน 21% โดยอ้างถึง “การลดลงของ Traffic อย่างมาก” เป็นหนึ่งในปัจจัยหลัก แม้ว่าบางฝ่ายจะมองว่าเป็นการใช้โอกาสนี้สนับสนุนการทดลองใช้ ChatGPT ในการสร้างเนื้อหา แต่ผลกระทบจากการสูญเสีย Traffic ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ค่ะ
3. สถิติที่เผยให้เห็นแนวโน้มการลดลงอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ชี้ให้เห็นภาพที่น่าเป็นห่วง The Current รายงานว่า Traffic ของผู้เผยแพร่ 500 อันดับแรกของโลกลดลง 27% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วน Digiday พบว่าตั้งแต่ AI Overviews เปิดตัวในสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 การค้นหาข่าวที่ไม่มีการคลิกไปยังเว็บไซต์ข่าวเพิ่มขึ้นจาก 56% เป็น 69% ครับ
Authoritas ค้นพบข้อมูลที่น่าตกใจมากขึ้น คือเว็บไซต์ที่เคยอยู่อันดับหนึ่งในผลการค้นหาอาจสูญเสีย Traffic ได้ถึง 79% สำหรับ Query นั้นๆ หากผลการค้นหาถูกแสดงใต้ AI Overview แต่ในทางกลับกัน SimilarWeb รายงานว่า AI Referrals ไปยังเว็บไซต์เพิ่มขึ้น 357% ตั้งแต่มิถุนายน 2024 ซึ่งอาจสนับสนุนคำกล่าวของ Google เรื่องการกระจาย Traffic ใหม่มากกว่าการหายไปทั้งหมดค่ะ
4. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้ใช้และโอกาสใหม่
Google อธิบายว่าผู้ใช้เริ่มค้นหามากขึ้นและตั้งคำถามใหม่ๆ ที่ซับซ้อนและยาวขึ้น นอกจากนี้ AI Overviews ยังแสดงลิงก์มากกว่าเดิม ทำให้มี “คำถามมากขึ้นและลิงก์มากขึ้น หมายถึงโอกาสมากขึ้นสำหรับเว็บไซต์ในการปรากฏและถูกคลิก” ครับ
บริษัทยอมรับว่าสำหรับคำถามที่ต้องการคำตอบสั้นๆ เช่น “พระจันทร์เต็มดวงครั้งต่อไปเมื่อไหร่” ผู้ใช้อาจพึงพอใจกับคำตอบเริ่มต้นและไม่คลิกต่อ แต่สำหรับคำถามประเภทอื่นๆ ผู้ใช้ยังคงคลิกเพื่อศึกษาเพิ่มเติม สำรวจข้อมูลเชิงลึก หรือทำการซื้อ ข้อมูลนี้สอดคล้องกับการที่ Reddit และเว็บไซต์ที่มี Forums, Videos, Podcasts และโพสต์ต่างๆ กำลังได้รับ Traffic เพิ่มขึ้นจาก Google ค่ะ
สิ่งที่ Google เน้นย้ำคือเว็บไซต์ที่ตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเฉพาะเนื้อหาที่ช่วยให้ผู้คนเรียนรู้มากขึ้น เช่น รีวิวเชิงลึก โพสต์ต้นฉบับ มุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ หรือการวิเคราะห์จากประสบการณ์จริง ผู้เชี่ยวชาญของเราจึงแนะนำว่าการปรับเนื้อหาให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาและเพิ่ม Traffic ครับ
การสูญเสิย Traffic จาก AI Overview เป็นความจริงที่หลายเว็บไซต์ต้องเผชิญ แม้ว่า Google จะอ้างว่าภาพรวมยังคงเสถียรก็ตาม หลักฐานจากหลายแหล่งชี้ให้เห็นว่าผลกระทบนี้มีจริงและรุนแรง โดยเฉพาะกับองค์กรสื่อและเว็บไซต์ข่าว อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ก็เปิดโอกาสใหม่สำหรับเว็บไซต์ที่สามารถปรับตัวได้ เจ้าของเว็บไซต์ควรมุ่งเน้นการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ เป็นเอกลักษณ์ และตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ใช้ เพื่อให้อยู่รอดและเติบโตในยุคของ AI-driven Search ที่กำลังจะขยายตัวมากขึ้นครับ