"บรรทัดแรก เปลี่ยนชีวิต" เขียน Head Caption ยังไงให้ยอดขายปัง "กว่าเดิม"

in
"บรรทัดแรก เปลี่ยนชีวิต" เขียน Head Caption ยังไงให้ยอดขายปัง "กว่าเดิม"

ผมแน่ใจว่าหลายท่านที่ลงโฆษณา Facebook ต้องเคยนั่งกุมขมับเพราะหาสาเหตุไม่เจอว่าทำไมลงโฆษณาแล้วขายไม่ดีอย่างที่หวังไว้
“ทั้งที่ก็คิดว่ากำหนดกลุ่มเป้าหมายตรงแล้ว”
“คอนเทนต์โฆษณาก็คิดไว้แจ๋วแล้ว”
ภาพก็สวย เนื้อหาก็ดี แต่ทำไม๊? ทำไม? “ผลมันกลับออกมาไม่เวิร์ค”

บางทีปัญหานี้อาจทุเลาลงได้ง่ายๆ
เพียงแค่คุณแก้ไข
"บรรทัดแรก" ในคอนเทนต์ของคุณครับ...

ทำไมต้องแก้?

ทุกวันนี้คอนเทนต์บน Facebook มันกำลัง overload แบบโคตรๆเลยครับ (ผมใช้คำว่าทะลัก) “แต่พื้นที่ในการแสดงผลก็มีเท่าเดิม” และเพราะสาเหตุนี้หละครับ มันส่งผลให้คนสนใจข้อมูลที่ผ่านเข้ามาน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งในทางกลับกัน มันก็ทำให้การดึงดูดความสนใจกลายเป็นเรื่องยากเย็นขึ้นไปทุกที

ล่าสุด Facebook ออกมาพูดเองเลยครับ ว่าคนใช้เวลาเฉลี่ยแค่ “1.7 วินาที” ในการหยุดดู content บน Newsfeed ในมือถือ สำหรับผมอย่าเรียกว่าอ่านเลยครับ เรียกว่าแค่มองผ่านดีกว่า เค้าแค่ดูรูป แถมอีกหน่อยด้วยการชายตามองบรรทัดแรก ก็เลื่อนผ่านแล้วครับ เพราะฉะนั้นถ้า First Impression แรกของคุณไม่โดนปุ๊บ “ก็จบเลย”

และนี่ไงหละครับคือเหตุผลว่า ทำไมคุณต้องแก้ไขบรรทัดแรก… เพราะมันเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่จะช่วย “หยุด” กลุ่มเป้าหมายเอาไว้ได้ยังไงล่ะครับ!!!! ซึ่งถ้าทำไม่ได้ อย่าว่าแต่ขายดีเลยครับ โอกาสที่คุณจะขายได้ “แทบไม่มี”

แล้วจะแก้ยังไงให้มันเวิร์ค??

ผมบอกเลยว่าทางเดียวที่จะหยุดกลุ่มเป้าหมายของคุณเอาไว้ให้ได้ในเวลาไม่ถึง 2 วินั้น คุณต้องเล่นกับ “อารมณ์” เท่านั้นครับ เรื่องนึงที่คุณควรรู้ก็คือ เวลาที่มนุษย์เราจะเลือก “สนใจ หรือ ไม่สนใจอะไร” ในช่วงเวลาแค่แว๊บเดียวนั้น เรามักจะใช้อารมณ์ และ ความรู้สึกชั่ววูบ เป็นตัวตั้งเสมอ นั่นแปลว่าปัจจัยสำคัญ ที่คนจะอ่านต่อ หรือจะเลื่อนผ่าน คอนเทนต์ของคุณ “ส่วนใหญ่อารมณ์มักจะเป็นตัวกำหนด” ซึ่งถ้าคุณสามารถทำให้บรรทัดแรกของคุณกระตุ้นอารมณ์คนอ่านได้ โอกาสที่เค้าจะตัดสินใจอ่านต่อก็มีมากขึ้นชัวร์ๆ ครับ

โดย “หลักคิดที่สำคัญที่สุด” ที่จะทำให้คุณเขียนบรรทัดแรกของคุณได้โดนใจกลุ่มเป้าหมายจนเค้าต้องหยุดอ่านนั้น “ไม่ใช่” เทคนิคการเขียนอันสุดล้ำ “แต่” คือ คุณต้องหา “จุดกระตุ้นอารมณ์” ของเค้าให้เจอครับ!! ซึ่งคำว่า “จุดกระตุ้นอารมณ์” อาจจะหมายถึง
– ปัญหาที่เจ็บปวดของเค้า (Pain Point) เช่น ยอดขายตก, ลดน้ำหนักทุกวิถีทางก็ไม่ลง, ใช้ครีมอะไรก็แพ้ไปหมด
– สิ่งที่เค้ากลัวว่าจะสูญเสีย (Fear of Loss) เช่น กลัวซื้อไม่ทันโปรโมชั่น, กลัวสูญเสียความสาวความสวย
– สิ่งที่เค้าใฝ่ฝันอยากมี (Make a gain) เช่น ฐานะที่มั่นคง, รูปร่างที่สวยเป๊ะ, สุขภาพที่ดีขึ้น
– เรื่องที่เค้าภาคภูมิใจ (Get Pride) เช่น การได้ดูแลครอบครัวอย่างยอดเยี่ยมสมกับเป็นหัวหน้าครอบครัว, การที่รู้สึกว่าตัวเองใส่เสื้อผ้าแล้วมั่นใจขึ้น
– การได้รับการยอมรับในสังคม (Social Approval) เช่น การได้รับคำชมจากผู้อื่น , การเป็นที่นับถือจากเพื่อนๆ , ความรู้สึกโดดเด่นในวงสังคม เป็นต้น

ซึ่งจุดกระตุ้นอารมณ์ของกลุ่มเป้าหมายนั้น มีความหลากหลายมากและแตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจครับ

ถ้างั้นทำยังไงล่ะถึงจะหาเจอ??

คำตอบคือ… “คุณต้องสวมวิญญานเป็นกลุ่มเป้าหมายครับ” คุณต้องมองในมุมมองของผู้บริโภค ‘ไม่ใช่’ มองในมุมของคนทำธุรกิจ คุณต้องบอกในสิ่งที่ผู้บริโภคอยากฟัง ‘ไม่ใช่’ บอกในสิ่งที่คุณอยากบอก

ซึ่งคุณจะมองในมุมมองของผู้บริโภคได้อย่างสมจริงก็ต่อเมื่อ… คุณรู้จักกลุ่มเป้าหมายของคุณแบบลึกซึ้ง “ไม่ใช่” รู้แค่เค้าอายุเค้าเท่าไหร่ เพศไหน อยู่จังหวัดอะไร “แต่” ต้องรู้ลึกลงไปถึงใน “ระดับพฤติกรรม” เช่น เค้าชอบทำอะไร ไม่ชอบทำอะไร สนใจเรื่องไหน มีกิจวัตรประจำวันยังไง มีปัญหาอะไรในชีวิต ฯลฯ

แล้วคุณจะรู้ได้โดยอัตโนมัติเลยว่า อะไรคือ “จุดกระตุ้นอารมณ์” ของพวกเค้า และมันไม่ใช่เรื่องที่จะมีใครมาสอนกันได้อย่างสมบูรณ์ครับ ผมอาจช่วยไกด์แนวคิดให้กับคุณได้ หรือช่วยบอกจุดเริ่มต้นให้กับคุณได้ “แต่” คุณต้องเป็นคนลงมือค้นหามันให้เจอด้วยตัวเองครับ!!

กรณีศึกษาจากตัวผมเอง ผมสอนลงโฆษณา “ผมไม่ได้มาสอนในฐานะอาจารย์” แต่ผมมาสอนในฐานะของคนที่มีประสบการณ์มาก่อน ผมก็เคยพลาด เคยงง เคยสงสัย เคยลองผิดลองถูก จนกระทั่งรู้ว่าทางไหนที่เดินไปแล้วจะประสบผลสำเร็จ ผมจึงเข้าใจผู้ที่อยากเรียนอย่างแท้จริงว่า “อะไรที่เป็นปัญหาที่เจ็บจี๊ดสำหรับเค้า” เพราะผมเองก็เคยเจ็บมาก่อน…และไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเจ็บแบบเดียวกันซ้ำซาก

บรรทัดแรกของผม จึงมักเริ่มจาก “ความเข้าใจในปัญหาของผู้บริโภคอยู่เสมอครับ” หากคนที่มีปัญหาเหมือนๆกันผ่านมาเห็น โอกาสที่เค้าอยากจะหยุด และเข้ามาหาหนทางแก้ไขไปด้วยกันก็จะมีเพิ่มมากขึ้น จริงมั้ยครับ?

เรื่องสำคัญของผมอยู่ตรงนี้นะครับ ผมอยากให้คุณลองเริ่มบรรทัดแรกของคุณด้วย “หลักคิดที่ถูกต้องก่อน” แล้วเรื่องวิธีเขียนให้มันเร้าใจ เราค่อยมาว่ากันทีหลัง “โฟกัสให้ถูกประเด็นนะครับ”

“แคปชั่นสวยหรู ที่ไม่เกี่ยวกับลูกค้าเลย = ไม่ประโยชน์นะครับ”

ใครอ่านโพสต์นี้มาถึงตรงนี้ ลองกลับไปนั่งทำการบ้านดูนะครับ ว่า “จุดกระตุ้นอารมณ์” ที่ลูกค้าของคุณอยากฟัง คืออะไร? และนั่นล่ะครับคือ “สิ่งที่ควรจะเป็นบรรทัดแรกของคุณ” ซึ่งผมรับรองว่าถ้าคุณหาเจอ มันจะช่วยให้คุณขายดีขึ้นแน่นอน