สถานการณ์ TikTok แบนในอเมริกา ยังคงเป็นประเด็นที่ทำให้หลายคนติดตาม เนื่องจากมีผู้ใช้งานชาวอเมริกันมากกว่า 170 ล้านคนที่ใช้แอปพลิเคชันนี้ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา เรื่องการแบน TikTok ได้กลายเป็นดราม่าที่ยาวนานและซับซ้อน โดยมีการขยายระยะเวลาเจรจาไปเรื่อยๆ ล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารที่ให้ TikTok มีเวลาอีก 90 วันในการหาพันธมิตรที่ตั้งฐานในสหรัฐอเมริกา สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อครีเอเตอร์ นักการตลาด และธุรกิจนับล้านที่พึ่งพาแพลตฟอร์มนี้ในการทำงานครับ
ทำไม TikTok โดนแบนในอเมริกา ถึงเป็นประเด็นสำคัญ
การที่ TikTok แบนในอเมริกา มีความสำคัญอย่างมากต่อหลายฝ่าย เนื่องจากเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ เศรษฐกิจดิจิทัล และเสรีภาพในการแสดงออก รัฐบาลสหรัฐอเมริกาแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่าง TikTok กับรัฐบาลจีน โดยเฉพาะบริษัทแม่ ByteDance ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศจีน
ความกังวลหลักมีสามประเด็นสำคัญคือ การเชื่อมโยงระหว่าง TikTok กับรัฐบาลจีน การเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้งาน และการดำเนินการด้านอิทธิพลต่างประเทศผ่านแอปพลิเคชัน เจ้าหน้าที่ FBI ได้กล่าวต่อคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของสภาผู้แทนราษฎรว่า รัฐบาลจีนอาจใช้แอปนี้ในการควบคุมการเก็บข้อมูลของผู้ใช้หลายล้านคน หรือควบคุมอัลกอริทึมการแนะนำเนื้อหา ซึ่งสามารถใช้เพื่อการโน้มน้าวทางการเมืองได้
นอกจากนี้ TikTok ยังมีผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล โดยมีธุรกิจในสหรัฐอเมริกามากกว่า 7.5 ล้านธุรกิจที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ในการทำการตลาดและสร้างรายได้ การแบนจึงไม่ใช่แค่เรื่องของความบันเทิง แต่ยังส่งผลต่อการจ้างงานและรายได้ของผู้คนจำนวนมากครับ
เหตุการณ์สำคัญของการแบน TikTok ในสหรัฐอเมริกา
การติดตาม TikTok แบนในอเมริกา จำเป็นต้องเข้าใจประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เพื่อให้เห็นภาพรวมของสถานการณ์ที่ซับซ้อนนี้ ดังนี้ครับ
1. ช่วงเริ่มต้นของความกังวล (2019-2020)
ปี 2019 เป็นจุดเริ่มต้นของการแสดงความกังวลอย่างเป็นทางการ เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเริ่มประกาศการแบนและจำกัดการใช้แอปในอุปกรณ์ที่เป็นของรัฐบาล สิงหาคม 2020 ประธานาธิบดีทรัมป์ในสมัยนั้นประกาศว่าจะดำเนินการแบน TikTok ในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด โดยอ้างเหตุผลเริ่มแรกว่าเป็นการลงโทษจีนสำหรับการแพร่ระบาดของโควิด-19
กันยายน 2020 TikTok เกือบจะถูกขายให้กับ Oracle หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาควบคุมดูแลกระบวนการเสนอซื้อต่างๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อประธานาธิบดีไบเดนเข้ารับตำแหน่งในกุมภาพันธ์ 2021 เขาได้ยกเลิกแผนการขาย TikTok โดยอ้างถึงความผิดปกติและความไม่สอดคล้องในกระบวนการ
2. การทบทวนและการดำเนินการในสภาคองเกรส (2021-2024)
รัฐบาลไบเดนได้เริ่มการทบทวนความปลอดภัยแบบครบถ้วนของแอป ซึ่งนำไปสู่การเรียกร้องใหม่ให้แบน TikTok เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติที่ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ พฤศจิกายน 2022 ผู้อำนวยการ FBI ได้กล่าวต่อคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของสภาผู้แทนราษฎรว่า FBI มีความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินงานของ TikTok ในสหรัฐอเมริกา
มีนาคม 2023 กลุ่มวุฒิสมาชิกสหรัฐอเมริกาได้เสนอร่างกฎหมายเพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยที่เกิดจาก TikTok ในเดือนเดียวกันนี้ ซีอีโอของ TikTok คือ Shou Zi Chew ได้ไปให้การต่อคณะกรรมการพลังงานและพาณิชย์ของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อชี้แจงว่า TikTok ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยข้อมูลของสหรัฐอเมริกา
เมษายน 2024 วุฒิสภาสหรัฐอเมริกาได้อนุมัติ “กฎหมายปกป้องชาวอเมริกันจากแอปพลิเคชันที่ควบคุมโดยประเทศปรปักษ์” ซึ่งห้ามการแจกจ่าย การดูแลรักษา หรือการให้บริการโฮสติ้งอินเทอร์เน็ตสำหรับแอปพลิเคชันที่ควบคุมโดยประเทศปรปักษ์ การลงคะแนนครั้งสุดท้ายมีผลคือ 79 เสียงเห็นด้วยต่อ 18 เสียงคัดค้าน
3. การต่อสู้ทางกฎหมายและการบังคับใช้ (2024-2025)
แทนที่จะหาทางขายกิจการ TikTok กลับเลือกที่จะท้าทายร่างกฎหมายนี้ในศาล พฤษภาคม 2024 TikTok ได้เริ่มคดีความทางกฎหมายต่อต้านกฎหมายดังกล่าว โดยแย้งว่ากฎหมายนี้มุ่งเป้าไปที่ TikTok และ ByteDance อย่างไม่เป็นธรรม โดยไม่มีเหตุผลอื่นนอกเหนือจาก “ความเป็นไปได้ในทางทฤษฎี” ที่แอปอาจก่อให้เกิดภัยคุกคามจริง
ธันวาคม 2024 ศาลอุทธรณ์สหรัฐอเมริกาได้ปฏิเสธคำร้องของ TikTok ที่จะทำให้ร่างกฎหมายบังคับขายกิจการของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นโมฆะ มกราคม 2025 ศาลสูงสุดได้สนับสนุนการตัดสินใจของศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับร่างกฎหมาย TikTok
ในช่วงวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีไบเดนได้กล่าวว่าเขาจะไม่มองหาทางบังคับใช้การแบน TikTok ในวันที่ 19 มกราคม 2025 เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยปล่อยให้ประธานาธิบดีทรัมป์ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งเป็นผู้ดำเนินการตามที่เห็นสมควร TikTok ได้หยุดให้บริการในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 19 มกราคม ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการบังคับใช้ที่อาจเกิดขึ้น แอปหยุดทำงานในสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาประมาณ 20 ชั่วโมง
4. การขยายเวลาภายใต้การบริหารของทรัมป์
หลังจากการสาบานตนเป็นประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกคำสั่งบริหารที่ให้ TikTok มีเวลาเพิ่มอีก 75 วันในการจัดการข้อตกลงการขายให้กับสหรัฐอเมริกา เมษายน 2025 ทรัมป์ได้ให้การขยายเวลาครั้งที่สองอีก 75 วันผ่านคำสั่งบริหาร และล่าสุดเดือนกรกฎาคม 2025 ได้มีการขยายเวลาเพิ่มอีก 90 วัน ซึ่งหมายความว่า TikTok จะมีเวลาจนถึงวันที่ 17 กันยายน 2025 ในการหาข้อตกลงการขายในสหรัฐอเมริกาครับ
ผลกระทบและแนวโน้มของสถานการณ์ในอนาคต
สถานการณ์ TikTok แบนในอเมริกา ส่งผลกระทบในหลายมิติที่ผู้ใช้งานและผู้ที่เกี่ยวข้องควรพิจารณา ครีเอเตอร์และแบรนด์ที่ใช้แพลตฟอร์มยังคงไม่มีความมั่นใจและความปลอดภัยที่ต้องการ เนื่องจากสถานการณ์ที่ยืดเยื้อและไม่แน่นอน
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้แสดงความเต็มใจที่จะลงนามในคำสั่งบริหารใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาแอปให้ทำงานในสหรัฐอเมริกาต่อไป โดยชะลอการบังคับใช้กฎหมายที่วุฒิสภาอนุมัติ ซึ่งขัดแย้งกับกระบวนการการออกกฎหมาย ทรัมป์ได้กล่าวว่าเขามี “ความรู้สึกอบอุ่น” ต่อแอปนี้ และยังอ้างว่าแอปนี้ช่วยให้เขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2024 ด้วยการเพิ่มการเชื่อมต่อกับผู้ลงคะแนนเสียงหนุ่มสาว
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระบุว่ายังไม่ชัดเจนว่าทรัมป์สามารถขยายกำหนดเวลาได้กี่ครั้ง การจัดการทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนล่าสุดอาจช่วยบรรเทาความตึงเครียดในด้านนี้และอำนวยความสะดวกในการทำข้อตกลงในที่สุด อย่างไรก็ตาม จากสิ่งที่เห็นมาจนถึงปัจจุบัน ดูเหมือนว่า TikTok จะไม่หายไปไหนในทางใดทางหนึ่ง
สิ่งที่น่าสนใจคือ ยังไม่มีการชี้แจงอย่างชัดเจนว่าภัยคุกคามใดที่ TikTok ก่อให้เกิดขึ้นเป็นพื้นฐานของกฎหมายนี้ เนื่องจากการนำเสนอแบบเต็มที่แสดงให้วุฒิสมาชิกเห็นโดยเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางไซเบอร์ถูกปกปิดจากสาธารณะ สามประเด็นหลักของความกังวลคือ ความเชื่อมโยงระหว่าง TikTok กับรัฐบาลจีน แนวทางการเก็บรวบรวมข้อมูลของ TikTok และการดำเนินการด้านอิทธิพลต่างประเทศของจีนภายในแอป
ในขณะเดียวกัน TikTok ยังคงพยายามโน้มน้าววุฒิสมาชิกสหรัฐอเมริกาให้เข้าข้างตน โดยเมื่อเร็วๆ นี้ได้ส่งอดีตนักบาสเกตบอล WNBA ไปติดต่อกับนักการเมืองเท็กซัสในออสติน และสนับสนุนในนามของบริษัท แม้ว่าผู้หญิงสูง 6 ฟุต 4 นิ้วจะเป็นผู้ส่งสารที่ไม่เหมือนใคร แต่เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว วุฒิสมาชิกท้องถิ่นก็ไม่สามารถทำอะไรได้ในทางใดทางหนึ่งครับ
TikTok จะรอดพ้นจากการแบนได้หรือไม่
จากการวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน TikTok แบนในอเมริกา ยังคงเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนและไม่สามารถคาดเดาได้อย่างแน่นอน แต่การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องและการขยายเวลาเจรจาหลายครั้งแสดงให้เห็นว่าแอปนี้มีโอกาสที่จะดำรงอยู่ต่อไป การที่ผ่านมาแล้วกว่า 250 วันนับตั้งแต่ TikTok ถูกแบนอย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา แต่ยังคงดำเนินการในภูมิภาคได้ตามปกติ ก็เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้ใช้งานและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนที่ยังคงอยู่ทำให้ครีเอเตอร์และแบรนด์ต่างต้องเตรียมแผนสำรองเผื่อสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ สิ่งที่ชัดเจนคือ ดราม่าอันยาวนานของ TikTok ในสหรัฐอเมริกายังคงดำเนินต่อไป และผลลัพธ์สุดท้ายจะส่งผลกระทบต่อวงการโซเชียลมีเดียและเศรษฐกิจดิจิทัลในระดับโลกครับ
