Meta เผย การเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาด้วย AI เป็นการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการปรับปรุงผลงานโฆษณาให้ได้ประสิทธิผลสูงสุด ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างคอนเทนต์ และการกำหนดเป้าหมายอย่างแม่นยำ ในยุคที่เทคโนโลยี AI พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว แบรนด์และนักการตลาดต่างก็หันมาใช้เครื่องมือ AI เพื่อยกระดับแคมเปญโฆษณาของตนให้โดดเด่นและสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าครับ Meta ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีโซเชียลมีเดีย ได้เผยแพร่ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือ AI ในการทำโฆษณาที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม การเข้าใจและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้อย่างถูกต้อง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณก้าวไปข้างหน้าและแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์หลักในการเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาด้วย AI
1. การใช้เครื่องมือ AI สำหรับการสร้างและเลือกคอนเทนต์โฆษณา
เครื่องมือ AI ของ Meta ในการสร้างและเลือกคอนเทนต์โฆษณาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สามารถทดสอบและปรับปรุงโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิผล การอัปโหลดคอนเทนต์หลากหลายที่มีธีมและข้อความแตกต่างกัน จะช่วยให้ระบบ AI สามารถทำการทดสอบและปรับแต่งในระดับที่มนุษย์ไม่สามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง ประสบการณ์จากการทำงานกับลูกค้าหลายรายแสดงให้เห็นว่า การใช้เครื่องมือ AI เพื่อสร้างความหลากหลายของคอนเทนต์ช่วยเพิ่มอัตราการคลิกและลดต้นทุนโฆษณาได้อย่างมีนัยสำคัญครับ
ความเชี่ยวชาญที่เราพบจากการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้คือ การมี AI ช่วยในการเลือกคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละคนจะทำให้ได้รับการตอบสนองที่ดีกว่า เพราะระบบสามารถเรียนรู้จากปฏิสัมพันธ์ในอดีตและปรับปรุงการแสดงผลแบบเรียลไทม์ สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลางที่มีทรัพยากรจำกัด การใช้ AI generative เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่หลากหลายรวมถึงวิดีโอ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ช่วยลดช่องว่างระหว่างธุรกิจใหญ่และเล็ก เราแนะนำให้ใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและติดตามผลลัพธ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถปรับปรุงกลยุทธ์ได้ทันท่วงที
2. การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ในการสร้างวิดีโอโฆษณา
เทคโนโลยี AI ในการสร้างวิดีโอโฆษณาได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากสถิติล่าสุดพบว่า มีนักโฆษณาเกือบ 2 ล้านรายที่ใช้ฟีเจอร์สร้างวิดีโอของ Meta โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและกลางที่หันมาใช้การทำ image animation เป็นจำนวนมาก ประสบการณ์ที่เราได้รับจากการทำงานกับลูกค้าแสดงให้เห็นว่า การมีวิดีโอคอนเทนต์ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและการจดจำแบรนด์ได้ดีกว่าภาพนิ่งเพียงอย่างเดียว
ความเชี่ยวชาญของเราในด้านการใช้เครื่องมือ AI เพื่อสร้างวิดีโอแสดงให้เห็นว่า แม้ธุรกิจจะไม่มีวิดีโอเนื้อหาเฉพาะเจาะจง ก็สามารถใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อสร้างคอนเทนต์วิดีโอที่น่าสนใจได้ เครื่องมือ AI ปัจจุบันสามารถสร้างภาพจากข้อความ สร้างวิดีโอจากข้อความหรือภาพ เพิ่มพื้นหลังให้กับภาพสินค้า และสร้างข้อความโฆษณาได้อย่างอัตโนมัติ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือกรณีของ Ben and Jerry’s ที่ใช้ฟีเจอร์สร้างพื้นหลังภาพด้วย AI ของ Meta ส่งผลให้อัตราการคลิกลิงก์เพิ่มขึ้น 7% และลดต้นทุนต่อการคลิกลิงก์ลง 6.5% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลที่จับต้องได้ครับ
3. การใช้ Reels เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนการตลาด
Reels ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนพฤติกรรมการบริโภคและการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในปัจจุบัน จากข้อมูลผลประกอบการไตรมาส 2 ของ Meta พบว่า เวลาในการรับชมวิดีโอทั้งใน Facebook และ Instagram เพิ่มขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดย Reels เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตนี้ ประสบการณ์จากการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้แสดงให้เห็นว่า ระบบ AI ที่ปรับปรุงแล้วสามารถแสดงเนื้อหาที่ผู้ใช้มีแนวโน้มจะสนใจและมีประโยชน์ได้แม่นยำขึ้น ส่งผลให้เวลาในการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ผลการสำรวจล่าสุดของ Meta เผยให้เห็นข้อมูลที่น่าสนใจคือ ผู้ใช้ 79% ได้ซื้อสินค้าหรือบริการหลังจากดู Reels แม้ว่าข้อมูลนี้อาจไม่ได้สะท้อนประชากรทั่วไปทั้งหมด แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Reels ในการเป็นตัวขับเคลื่อนการตอบสนองของแบรนด์ ไม่ใช่เพียงแค่ความบันเทิงเท่านั้น ความเชี่ยวชาญของเราในการใช้ Reels อย่างมีประสิทธิภาพ คือการร่วมมือกับครีเอเตอร์ที่เชี่ยวชาญในการสร้างเนื้อหาวิดีโอที่สร้างความบันเทิง เข้าใจง่าย และสร้างความเชื่อมโยง การผสมผสานเนื้อหาจากครีเอเตอร์เข้ากับแคมเปญที่ดำเนินการอยู่เสมอผ่าน partnership ads สามารถลดต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่ลง 19% และเพิ่มการยกระดับแบรนด์ขึ้น 71% โดยเฉลี่ย Creator Marketplace ของ Meta สามารถช่วยคุณหาครีเอเตอร์ที่เหมาะสมในการทำงานร่วมกันได้ค่ะ
4. การปรับใช้เครื่องมือ Value Optimization และ Value Rules
เครื่องมือ Value Optimization และ Value Rules ของ Meta เป็นนวัตกรรมล่าสุดที่ช่วยให้นักโฆษณาสามารถปรับแต่งการทำงานให้สอดคล้องกับผลลัพธ์ที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ Value Rules ช่วยให้คุณสามารถเน้นกลุ่มผู้ใช้ที่มีพฤติกรรม ลักษณะทางประชากรศาสตร์ และปัจจัยอื่นๆ ที่เฉพาะเจาะจง เพื่อเข้าถึงลูกค้าที่มีศักยภาพสูงสุดสำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณ ประสบการณ์จากการทำงานกับลูกค้าหลายรายแสดงให้เห็นว่า การใช้ Value Rules อย่างถูกต้องช่วยลดการสูญเสียงบประมาณในการเข้าถึงกลุ่มที่ไม่ตรงเป้าหมาย และเพิ่มโอกาสในการได้รับการตอบสนองจากลูกค้าที่เหมาะสมมากขึ้น
ความเชี่ยวชาญด้าน Value Optimization แสดงให้เห็นว่า กระบวนการนี้ใช้ AI และ machine learning เพื่อทำนายมูลค่าผลตอบแทนจากการลงทุนโฆษณา (ROAS) ที่ผู้ชมโฆษณาแต่ละคนอาจสร้างขึ้น จากนั้นจึงใช้ข้อมูลนี้ในการเสนอราคาที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าที่มีมูลค่าสูงสุด หลักการทำงานของระบบนี้อาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลในอดีตและการเรียนรู้แบบต่อเนื่องจากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อปรับปรุงความแม่นยำในการทำนาย การใช้งานเครื่องมือทั้งสองร่วมกันจะช่วยให้คุณมีการควบคุมที่มากขึ้นเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายที่จะนำเสนอโฆษณาในแอป และช่วยให้ระบบ AI targeting ของ Meta สามารถจับคู่กับลูกค้าเฉพาะที่คุณต้องการเข้าถึงได้ ผ่านการใช้ข้อมูลเชิงลึกในการเสนอราคาที่ช่วยเพิ่มประสิทธิผลสูงสุดครับ
การเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาด้วย AI ในปัจจุบันไม่ใช่เพียงแค่เทคโนโลยีเสริมอีกต่อไป แต่กลายเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการทำการตลาดดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จ จากกลยุทธ์ต่างๆ ที่กล่าวมา เราจะเห็นได้ว่า การใช้เครื่องมือ AI อย่างเป็นระบบและต่อเนื่องสามารถสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและคุ้มค่าการลงทุนได้จริง ทั้งการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิผลของแคมเปญโฆษณา สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจและใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างถูกต้อง พร้อมทั้งติดตามและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาด้วย AI คุณพร้อมที่จะนำกลยุทธ์เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้กับแคมเปญโฆษณาของตัวเองแล้วหรือยัง?
