ขายของใน tiktok ต้องมีผู้ติดตามกี่คน ? คำถามที่เจ้าของแบรนด์มือใหม่หลาย ๆ คนต้องการทราบ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าในปัจจุบัน แพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่าง Tiktok นั้น หากเราทำการตลาดได้ดีและมีความสม่ำเสมอในการทำ Content หรือ Live ขายสินค้าก็สามารถทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักและขายดีเป็นเทน้ำเทท่าได้เลยทีเดียว แต่ก่อนที่จะไปถึงขั้นนั้น เราต้องรู้ก่อนว่า Tiktok Account ของแบรนด์ต้องมีผู้ติดตามกี่คนจึงสามารถทำการขายสินค้าได้ ในบทความนี้เราจะมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน
ขายของใน tiktok ต้องมีผู้ติดตามกี่คน ต้องมียอดขั้นต่ำก่อนหรือไม่?
จากที่ได้บอกไปว่าการทำ Performance การขายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพบน Tiktok นั้นสามารถช่วยให้ง่ายต่อการทำธุรกิจของคุณได้มากขึ้น ซึ่งนอกจากเทคนิคทางการตลาดและการขายแล้ว อีก 1 ปัจจัยที่จำเป็นมาก ๆ ในการขายของบน Tiktok นั้นก็คือยอด Followers บนหน้า Account ของทางแบรนด์ที่จำเป็นต้องมีจำนวนเบื้องต้นมากพอประมาณซะก่อนจึงจะสามารถทำการค้าขายได้ ซึ่งจะต้องมีจำนวนเท่าไหร่ มาติดตามไปพร้อม ๆ กัน
TikTok Shop ตัวช่วยขายของออนไลน์ที่จะทำให้ธุรกิจของคุณซื้อง่ายและขายได้คล่องขึ้น
สำหรับบริการ TikTok Shop เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ในแอปฯ TikTok โซเชียลมีเดียสายวิดีโอ ที่เปิดโอกาสให้ใครก็ได้มาเป็นพ่อค้าแม่ขายของออนไลน์ ที่คนใช้แอปฯ สามารถซื้อของผ่านเราได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลาง หรือจ่ายค่าหัวคิวให้ใคร ครบจบในแอปฯ เดียว เลือกให้เสร็จพร้อมบริการจ่ายเงินได้ทันที คล้ายกับแอปฯ ขายของออนไลน์อื่น ๆ เลย ต่างกันที่ตอนนี้บริการ TikTok Shop สามารถจัดการได้ง่ายกว่านั้น
ไขข้อสงสัยต้องมียอดฟอลเท่าไหร่จึงจะขายของใน Tiktok ได้
สร้างบัญชี TikTok และต้องมียอดผู้ติดตาม 1,000 คนขึ้นไป เพื่อเปิดการใช้ฟังก์ชั่น live ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการไลฟ์ขายสินค้า และถ้าให้ดีให้บัญชีหลักของเรา เชื่อมกับ TikTok Shop เอาไว้ด้วย ถ้าเงื่อนไขครบแล้ว ให้ไปที่หน้าโปรไฟล์บัญชีของเรา แล้วกดปุ่ม ‘ตะกร้า’ และกดคำว่า TikTok Shop แล้วจะเจอคำว่า ‘เพิ่มสินค้าของตัวแทน’ กดเข้าได้เลย ซึ่งจากที่ได้กล่าวไปว่ายอดฟอลขั้นต่ำของทางแบรนด์ต้องมีจำนวน 1,000 คนเป็นต้นไป ฉะนั้น แบรนด์ไหนที่มียอดฟอลไม่ถึง สามารถเพิ่มจำนวนผู้ติดตามได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนเบื้องต้น ดังนี้…
5 วิธีเพิ่มผู้ติดตาม TikTok แบบง่าย ๆ สำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ที่กำลังหัดเล่น
TikToker มือใหม่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ 5 วิธี ดังนี้ครับ
1.ทำ Content ที่มีประโยชน์
การทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์และดูน่าสนใจไม่เพียงแต่สร้างยอดวิวเท่านั้นครับแต่ยังเป็นตัวที่ดึงดูดผู้ติดตามให้เราได้อีกด้วยครับ เพราะเมื่อใดก็ตามที่คนเข้ามาดูคอนเทนต์ของคุณ และรู้สึกว่าคอนเทนต์นั้น ๆ ให้ทั้งความบันเทิง และได้ประโยชน์ ก็จะทำให้คนอยากติดตามคุณมากขึ้นนั่นเอง
2.โพสต์ให้ถูกจังหวะเวลาและสม่ำเสมอ
เช่นเดียวกับการโพสต์คอนเทนต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลฯ อื่น ๆ ที่คุณก็ควรจะโพสต์ในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งเวลาที่เหมาะสมในที่นี้ก็คือเวลาที่ผู้ชมของคุณออนไลน์นั่นเองครับ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแต่ละแพลตฟอร์มจะมีเวลาทองที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและความสะดวกของผู้ใช้งานแต่ละแพลตฟอร์มครับ ซึ่ง TikTok จะมีเวลาที่เหมาะสมอยู่ที่ช่วง 06.00 น. – 08.00 น. , 13.00 น. – 16.00 น. และช่วงหลัง 20.00 น. สำหรับวันธรรมดา ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็จะเป็นช่วง 10.00 น. และหลัง 20.00 น. ซึ่งจะมีโอกาสเพิ่มยอดวิวได้มากขึ้น ทั้งนี้ต้องมีตารางเวลาการโพสต์อย่างสม่ำเสมอด้วยเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้เห็น Content ของเราอยู่เสมอครับ
3.ตามเทรนด์ตามกระแส
การเกาะติดเทรนด์นั้นแน่นอนว่าจะช่วยให้ผู้ใช้เห็นคลิปของเรามากยิ่งขึ้น แถมยังอาจทำให้คลิปของคุณเป็นไวรัลได้ภายในชั่วข้ามคืน แต่การจะสร้างคลิปหรือคอนเทนต์ที่ตามเทรนด์นั้น ก็ต้องมาควบคู่กับการใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปเช่นกันครับเพื่อสร้างความโดดเด่นไปในตัว
4.ติดแฮชแท็ก
อีกหนึ่งวิธีเพิ่มยอดวิว TikTok ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เช่นกันก็คือการติด Hashtag เพื่อทำให้คอนเทนต์ของคุณถูกค้นเจอได้ง่ายมากขึ้น เนื่องจากการติด Hashtag ก็เหมือนการที่คุณได้เพิ่มคอนเทนต์ของคุณไปยังหมวดหมู่นั้น ๆ ซึ่งอาจเป็นประเด็นที่กำลังเป็นกระแสอยู่บนแพลตฟอร์ม ณ ตอนนั้นด้วย
5.แชร์ไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ
การเพิ่มยอดวิวหรือเพิ่มยอดฟอลฯ นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องทำการโปรโมทคอนเทนต์ของคุณบนแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งเท่านั้น แต่คุณสามารถเลือกโปรโมทที่ไหนก็ได้ เพื่อดึงคนดูจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ มาเพื่อมีส่วนร่วมด้วยนั่นเองครับ เช่น Facebook, IG , Twitter ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้บัญชีของเราโตได้ไวขึ้นด้วย
ยังไงก็ตาม เมื่อเจ้าของแบรนด์สามารถทำการเพิ่มจำนวนยอดฟอลให้กับ Account ของแบรนด์ได้แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการเริ่มต้นขายสินค้า ซึ่งสำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่หัดขายใน Tiktok ท่านไหนไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงเพื่อสร้างยอดขายให้กับตัวเอง ก็สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
3 เทคนิคเพิ่มยอดขายของใน TikTok
การสมัครขายของใน TikTok Shop ในปัจจุบันจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ซื้อและผู้ขาย แต่หัวใจในการเพิ่มยอดขายใน TikTok ยังคงอยู่ที่คอนเทนต์หรือคลิปวิดีโอสั้นที่เราโพสต์ลงหน้า Feed โดยเรามีเทคนิคการทำคอนเทนต์ให้สินค้าขายดีใน TikTok ดังนี้
1. สร้าง Content ที่ทำให้ User รู้สึกว่ามีส่วนร่วมหรือมีอารมณ์ร่วมไปด้วย
เราจะเห็นได้ว่า คลิปที่เป็นไวรัลหรือได้รับความนิยมส่วนใหญ่จะเป็นคลิปตลก แชร์ความน่ารักของสัตว์เลี้ยง รวมถึงคลิปที่ทำตามหรือมีส่วนร่วมได้ง่าย อย่างคลิปเต้นน่ารัก ๆ หรือลิปซิงค์ตลก ๆ และด้วยอายุของผู้ที่เล่น TikTok จะเป็นวัยรุ่นและคนที่อายุน้อยเป็นส่วนใหญ่ อารมณ์และภาษาที่ใช้ควรจะต้องเป็นธรรมชาติ มีการเล่นเสียงเล่นคำ เหมือนคุยกับเพื่อนมากกว่าการขายของแบบตรง ๆ
2. อย่าลืมใส่ Hashtag และตามเทรนด์อยู่เสมอ
คอนเทนต์ใน TikTok จะเป็นวิดีโอสั้น ๆ ตามกระแสและความนิยมในขณะนั้น ดังนั้น การทำคลิปไวรัลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จัก นอกจากนี้การใช้ Hashtag หรือสร้างเนื้อหาที่อยู่ในความสนใจ ใช้เพลงที่กำลังฮิตก็ช่วยเพิ่มยอดคนดูได้เช่นเดียวกัน
3. ลงโฆษณาบน TikTok บ้าง
เราสามารถเพิ่มยอดขายด้วยการยิงโฆษณาบน TikTok โดยตรง ซึ่งเราจะต้องเปิดบัญชีโฆษณาก่อน โดยรูปแบบของโฆษณาจะมีทั้งหมด 5 รูปแบบคือ
- Brand Takeovers คือโฆษณาที่จะปรากฏขึ้นเมื่อเราเปิดเข้ามาใช้งาน TikTok สามารถใส่ได้ทั้งไฟล์รูปภาพและวิดีโอ มีความยาวประมาณ 3-5 วินาที
- Top View อยู่ด้านบนของแอปฯ หรือตำแหน่งที่ดีที่สุด ความยาวสูงสุด 60 วินาที
- In-Feed เป็นโฆษณาที่อยู่บนหน้า Feed For You สามารถเลื่อนผ่านได้
- Sponsored Hashtag Challenges โดยให้ผู้ใช้อื่น ๆ เข้ามาร่วมทำ Challege ที่เรากำหนดไว้ได้
- Branded Effects โดยแบรนด์สามารถทำ AE, Effect และ Filter เพื่อให้ผู้ใช้เข้ามาเล่นและมีส่วนร่วมได้
ท้ายที่ สุดสำหรับการสร้างรายได้จากการเปิดร้านขายของออนไลน์บน TikTok Shop ก็ทำได้ไม่ยากเกินไป หากใครอยากก้าวเข้ามาทำธุรกิจขายของออนไลน์ บอกเลยว่าการเปิดร้านค้าบน TikTok Shop กำลังน่าสนใจสุด ๆ นอกจากจะได้ความสนุกจากแอป ฯ ยังมีเงินใช้เพลิน ๆ เป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง
บทความที่น่าสนใจ
แชทบอท Facebook ผู้ช่วยตอบแชทที่แบรนด์ยุค 2022 ควรมี
พึ่งเริ่มลงโฆษณาบน Facebook ควรใช้งบต่อวันเท่าไหร่ดี?
“Clicks” แต่ละประเภทในรายงานโฆษณา Facebook แตกต่างกันอย่างไร?