การเลือกคีย์เวิร์ด Keywords ให้เข้ากับตัวเว็บไซต์ สินค้าและธุรกิจของคุณ

ในการทำ SEO การเลือกคีย์เวิร์ด (Keywords) ถือเป็นหัวใจสำคัญอย่างมาก เปรียบเสมือนลูกไฟดวงเล็ก ๆ ที่จะช่วยนำทางให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็นเว็บไซต์ของเรา ยิ่งเรามีลูกไฟนำทางเยอะเท่าไร ก็จะยิ่งเปิดทางเพิ่มแสงสว่างให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็น สะดุดตาและเข้ามาเยี่ยม เข้าชมเว็บไซต์มากเท่านั้น และการเลือก Keyword ที่ดีนั้นก็ต้องผ่านการวางแผนมาแล้ว ไม่ใช่การเลือกเอาคำไหนก็ได้ ซึ่งหากคุณสามารถเลือก Keyword ที่เหมาะสมที่สุดได้ การทำ SEO ของคุณก็จะยิ่งประสบความสำเร็จมากเท่านั้น 

 

การเลือกคีย์เวิร์ด Keywords ให้เข้ากับตัวเว็บไซต์ สินค้าและธุรกิจของคุณ

คีย์เวิร์ด (Keywords) คืออะไร? 

โกโกวา Squid Game

Keyword (คีย์เวิร์ด) หมายถึง คำที่กลุ่มผู้ใช้งานใช้ค้นหาผ่าน Search engine ของ Google ซึ่งคำนั้นอาจจะเป็นสินค้า หรือบริการ หรือปัญหา หรือสิ่งที่ต้องการหรือเป็นสิ่งที่กำลังเป็นที่สนใจ เช่น ลูกค้าอาจกำลังค้นหาชุดโกโกวา ตุ๊กตาสังหารยองฮีผมแกละจากเรื่อง Squid Game ลูกค้าอาจจะค้นหาคำว่า 

  • “ ชุดโกโกวา Squid Game”
  • “ชุดโกโกวา ราคาถูก”
  • “ชุดตุ๊กตาสังหาร” 
  • “ชุดเหลืองส้ม Squid Game”

จากด้านบนจะเห็นใช่มั้ยครับว่า คำค้นหานั้นมีความแตกต่างกัน แต่หมายถึงสินค้าชนิดเดียวกัน ดังนั้นหากคุณเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายชุดโกโกวา และต้องการทำ SEO ก็จำเป็นที่จะต้องเลือกใช้ Keywords ที่เหมาะสม และวางแผนการใช้ให้ดีก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการที่เว็บไซต์ของคุณจะขึ้นไปติดอันดับต้น ๆ และมีผลการค้นหาแบบ Organic เข้าสู่เว็บไซต์ได้ 

ทำไมการเลือกคีย์เวิร์ดที่ดี ถึงมีชัยไปว่าครึ่ง?  

 1. เพราะ Keyword เป็นลูกไฟนำทางระหว่างคุณและกลุ่มเป้าหมาย

อย่างที่ผมเกริ่นไปในต้นเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่ดีว่าก็เหมือนกับลูกไฟนำทาง หากคุณยังนึกภาพไม่ออก..ให้คุณลองหลับตาแล้วนึกถึงถนนใหญ่ที่มีซอยให้รถเลี้ยวเข้ามา รถทุกอันมีอิสระในการวิ่งที่จะวิ่งเข้าซอยไหนก็ได้ ซึ่งตามปกติวิสัยแล้วหากซอยนั้น ๆ เป็นซอยมืดทึบป่ารกร้างน่ากลัว คนก็จะไม่เลี้ยวเข้าไป หรือที่แย่ขั้นสุดคือ คนอาจจะมองข้ามซอยนั้นไปเลยก็ได้เพราะมองไม่เห็น สิ่งที่ดีที่สุดคือ การติดลูกไฟที่หน้าปากซอย เพื่อให้คนเริ่มสังเกตเห็นและเริ่มไว้ใจที่จะขับรถเข้าไป

การทำ SEO ก็เช่นเดียวกัน หากคุณเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ดีก็เป็นเหมือนลูกไฟที่จะช่วยนำพาคนเข้าสู่ซอยของคุณได้ และหากซอยของคุณมีจำนวนคนเข้าเยอะ เริ่มเป็นที่นิยม ทางการก็จะเริ่มนำไฟมาติดให้ เริ่มเอาป้ายมาใส่ หรือในทาง SEO จะเรียกว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพที่ Google ให้ความสนใจ อันดับของเว็บไซต์ก็จะไต่ขึ้นสูงมากขึ้น 

 2.  ยิ่งมีคีย์เวิร์ดดีมากเท่าไร กลุ่มเป้าหมายก็หนีไปไหนได้ไม่ไกล 

ยิ่งเว็บไซต์ของคุณมีคีย์เวิร์ดหรือคำที่เกี่ยวข้องกันมากเท่าไร ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสการติด SEO บนผลการค้นหาของ Google มากเท่านั้น ถ้ายกตัวอย่างง่าย ๆ ก็ให้นึกถึงร้านขายชุดโกโกวาในตัวอย่างแรกก็ได้ครับ หากคุณมีคำว่า “ชุดโกโกวา” เพียงอย่างเดียว คนอาจจะคลิกเข้ามาจากคำว่า “ชุดโกโกวา” ประมาณ 500 คน แต่หากคุณมีคำว่า “ชุดตุ๊กตาสังหาร” คุณอาจได้คนที่คลิกเข้ามาจากคำนี้อีก 600 คน และหากคุณมีคำว่า “ชุดตุ๊กตา Squid Game” คุณอาจจะได้คนเพิ่มอีก 300 คน รวมแล้วใน 1 วันคุณจะมีคนเข้าชมเว็บทั้งหมด 1,400 คนแบบ Organic ดังนั้นมีคำเยอะ ๆ ยังไงก็ได้เปรียบมากกว่ามีคำไม่กี่คำแน่นอนครับ 

 3. เพราะ Keyword ดี ทำให้ประหยัดงบมากกว่า 50% 

ในการทำ SEO นั้นหลายคนมักจะรู้สึกว่า เสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ เนื่องจากใช้เวลานานกว่าจะติดอันดับ (อย่างต่ำ 6 เดือนขึ้นไปถึงจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง) ทำให้หลาย ๆ คนเลือกที่จะใช้ Google Ads หรือ SEM ในการขายมากกว่าเพราะรวดเร็ว จ่ายเงินปุ๊บก็ติดอันดับทันที แต่ก็ต้องแลกมากับค่าโฆษณาอันมหาโหด

แต่หากคุณเลือกทำการตลาดแบบ SEO เริ่มแรกคุณอาจจะรู้สึกท้อแท้เพราะยอดที่เข้ามานั้นอาจจะน้อยมาก แต่ขอให้ไม่ย่อท้อครับ เพราะถึงแม้ว่าจะใช้เวลานานกว่า แต่หากเว็บไซต์ของคุณทำถูกกติกา ไม่ทำผิดกฎ และตามแผนของ SEO ที่ดีแล้ว อันดับของเว็บไซต์ที่ได้มาจะค่อนข้างมั่นคง และยั่งยืนมากกว่าการยิง Ads ไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อรักษาอันดับ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ประหยัดค่าโฆษณาไปมากโขเลย 

การใช้คีย์เวิร์ดให้ตรงกับธุรกิจ ควรเลือกแบบไหน 

มาถึงตรงนี้ หลายคนคงจะสงสัยแล้วว่า แล้วการเลือกคีย์เวิร์ดที่ดี มีประสิทธิภาพ และตรงกับธุรกิจนั้นควรจะเลือกแบบไหน และต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง วันนี้ผมจะมาแนะนำให้ฟังครับ …

เริ่มต้นการเลือกคีย์เวิร์ดสำหรับธุรกิจนั้น คุณต้องทำความเข้าใจสินค้าของคุณก่อนว่าเป็นสินค้าเกี่ยวกับอะไร และใครเป็นกลุ่มเป้าหมาย จากนั้นค่อยคิดถึงคีย์เวิร์ด โดยคำนั้นควรจะมีองค์ประกอบดังนี้ 

1.ต้องเป็นคำ หรือ Keywords ที่มีการค้นหาจริง 

90 % ของลูกค้าที่เข้ามาปรึกษาผมเรื่องเกี่ยวกับการทำ SEO มักจะเลือกคีย์เวิร์ดที่ทางแบรนด์ “คิดว่า” คนจะค้นหา แต่เมื่อลองเช็กจริง ๆ แล้วคำนั้นมีอัตราการค้นหาที่น้อยมากหรือในบางคำไม่มีอัตราการค้นหาเลย เนื่องจากเป็นคำที่คนไม่ได้ใช้ค้นหากันจริง ๆ นั่นเอง ซึ่งหากคุณดันทุรังทำต่อไป ไม่ยอมเปลี่ยนหรือเลือกคำใหม่ก็จะเท่ากับเสียเวลานั่นเอง 

ดังนั้นก่อนการทำ SEO จะต้องเลือกคำที่มีคนใช้จริง มีอัตราการค้นหาที่สูงมากพอ ซึ่งหากคุณต้องการทราบว่า คำที่ต้องการนั้นมีอัตราการค้นหาหรือไม่? สามารถใช้เครื่องมือ Keywords Tool ได้ครับ

2.ต้องเป็น Keywords ที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้า หรือ บริการ

การหาคีย์เวิร์ดที่จะใช้นั้น ไม่ควรเลือกคำที่กว้างจนเกินไป เพราะคำที่กว้างจนเกินไปมักจะเป็นคำที่มีอัตราการค้นหาสูง เช่น ธุรกิจของลูกค้าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าของเด็ก ก็ควรจะใช้คำที่ระบุชัดเจน เช่น “ เสื้อผ้าเด็ก” , “ชุดสำหรับเด็ก” หรือ “แฟชั่นเด็ก” หลีกเลี่ยงการใช้คำว่า “เสื้อผ้า” เพราะคำนี้เป็นคำที่กว้างเกินไป แข่งขันยากกว่าและยังเสี่ยงต่อกลุ่มเป้าหมายที่อาจจะไม่ตรง 

ควรเลือกคีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องทางตรง หรือเพิ่มคำเฉพาะเพื่อระบุให้จำเพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น “ เสื้อผ้าเด็กสีชมพู” , ชุดโกโกวาเด็ก , เดรสสำหรับเด็ก ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นคำที่มีอัตราการค้นหาที่น้อยกว่า แต่ก็ตรงกลุ่มมากกว่า และยังช่วยเพิ่มโอกาสการติดคีย์เวิร์ดที่หลากหลายขึ้นอีกด้วย 

 

สรุปก็คือ การเลือกคีย์เวิร์ดที่ดีก็จะช่วยเพิ่มโอกาสการติด SEO และยังช่วยเพิ่มการกระจายคีย์เวิร์ดให้มากขึ้นได้มากขึ้น ซึ่งในบทความต่อไปผมจะพูดถึงประเภทของคีย์เวิร์ดชนิดต่าง ๆ ว่ามีการแบ่งออกเป็นกี่ชนิด และแต่ละชนิดมีความสำคัญอย่างไรให้ฟังกันครับ ยังไงก็รอติดตามอ่านกันด้วยนะครับ

บทความล่าสุด

Dpoint Holdings Co.,Ltd (Maxideastudio)

344 ซ.สุคนธสวัสดิ์ 14 ลาดพร้าว Bangkok Thailand

Call (+66) 095-7922929

www.maxideastudio.com

ชัยพร อุดมชนะโชค

Founder Of Maxideastudio
Digital Marketer l Content Creator l Speaker

© 2024 MaxideaStudio. All Rights Reserved.