มีบางคนถามผมมาครับ ว่าโฆษณาที่ทำอยู่ Relevance Score ไม่เคยได้ เต็ม 10 เลย เคยได้สูงสุดแค่ 7 แต่คนทักและยอดขายอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เค้าควรจะต้องแก้ไขโฆษณาจนกว่าจะได้ คะแนน 10 หรือไม่?
ต้องอธิบายก่อนนะครับว่า Relevance Score คืออะไร? (เอาแบบง่ายๆนะ)
Relevance Score คือค่าที่ระบบให้คะแนนว่าโฆษณาของเราได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายอย่างไร ซึ่งคะแนนจะ ขึ้น หรือ ลง, เยอะ หรือ น้อย ระบบก็จะประเมินจากผลตอบรับ 2แบบหลักๆ
1. ผลตอบรับทางบวก (Positive Feedback)
เช่น การ Like , Comment , Share รวมไปจนถึงการเกิดผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์โฆษณาที่เราเลือก เป็นต้น
2. ผลตอบรับทางลบ (Negative Feedback)
เช่น มีคนเลือก “ฉันไม่ต้องการเห็นสิ่งนี้” ที่โฆษณาของคุณ, โฆษณามีแต่คนเลื่อนผ่านไม่ได้รับความสนใจเลย
เมื่อโฆษณามี Positive Feedback มากๆ ระบบก็จะมองว่าเป็นโฆษณาที่มีคุณภาพดี จึงส่งผลให้โฆษณาตัวนั้นๆ มีการเข้าถึงที่ดี มีค่านำส่งที่ต่ำ เพราะเฟสบุ๊คเค้าอยากให้ผู้ใช้ของเค้าเห็นแต่โฆษณาที่คุณภาพดีๆครับ ในทางกลับกันถ้าโฆษณาของคุณได้รับ Negative Feedback เยอะ มันจะเข้าถึงคนได้น้อย ค่านำส่งสูง หรือหนักเข้าคือโฆษณาไม่รันไปเลย
ฟังอย่างนี้แล้ว แสดงว่าเราต้องให้ความสำคัญกับ Relevance Score มากที่สุดเลยใช่มั้ย ค่าโฆษณาเราจะได้ถูก ส่วนนึงมันก็ใช่ครับ การที่ได้ Relevance Score สูงๆ นั้นเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน แต่การที่โฆษณาของเราได้ Relevance Score สูงเพียงอย่างเดียว ก็ไม่ได้หมายความว่าโฆษณาตัวนั้นเป็นโฆษณาที่ดีนะครับ มันต้องดูหลายๆอย่างประกอบกัน และอีกอย่างนึงที่คุณต้องรู้คือ คุณไม่ควรเอาโฆษณาที่ใช้ Ads Objective ต่างกัน มาเปรียบเทียบ Relevance Score กันเด็ดขาด เพราะการนำส่งโฆษณาในแต่ละวัตถุประสงค์นั้นมีการ Optimize เพื่อผลลัพธ์ที่ต่างกัน ซึ่งก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการประเมินคะแนนด้วย ซึ่งเรื่องพวกนี้สำหรับคนที่เคยทำโฆษณามาซักระยะแล้วน่าจะนึกออก เพราะคุณคงเคยเจอโฆษณาบางตัวที่ Relevance Score เต็ม 9-10 คนไลค์กระจุย แต่ไม่มีคนทัก แต่ในทางกลับกันโฆษณาบางตัว Relevance Score กลางๆ แต่กลับมีคนทักเยอะกว่า ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนะครับ มันเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว
ผมขอสรุปแบบเข้าใจง่ายๆประมาณนี้นะครับ Relevance Score สูงคือดีครับ (เป็นสิ่งที่ควรทำให้ได้) แต่ก็ไม่ได้แปลว่า Relevance Score สูงๆแล้วจะทำให้เราขายดีตามเสมอไป
ประเด็นคือคุณแค่ต้องแยกให้ออกเท่านั้นเองระหว่าง
"ผลลัพธ์ของการลงโฆษณา"
กับ
"ผลลัพธ์ในการขายที่เกิดขึ้นจริง"
เวลาผมสอนคนอ่าน Report โฆษณา ผมจะพูดบ่อยมากว่า “อย่าดูตัวชี้วัดแค่ 1-2 ตัวแล้วรีบสรุป” คุณต้องดู Report แบบภาพรวม และประเมินกันเป็นด้านๆ ไม่ใช่ดูจากค่าใดค่าหนึ่งเท่านั้นแล้วบอกว่านั่นคือโฆษณาที่ดีหรือไม่ดี เพราะคำว่า ”โฆษณาที่ดี” นั้นมันขึ้นอยู่กับว่า Goal ของคุณคืออะไร? หรือคุณต้องการให้โฆษณาตัวนั้นทำหน้าที่อะไรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์แบบไหน แล้วจึงมาดูว่าโฆษณาตัวไหนคือโฆษณาที่ดีสำหรับคุณ